5 สิ่งควรรู้เมื่อวางแผนสมัครเรียนต่อปริญญาเอกเศรษฐศาสตร์
(ในสหรัฐอเมริกา)
ศิวพงศ์ ธีรอำพน
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เศรษฐศาสตร์เป็นสาขาวิชาหนึ่งที่มีการแข่งขันในกระบวนการสมัครสูง กล่าวคือมีผู้สมัครเป็นจำนวนมาก เนื่องจากในการสมัครไม่ได้มีเงื่อนไขว่าผู้สมัครต้องจบระดับปริญญาทางเศรษฐศาสตร์มาก่อน และเนื่องจากการศึกษาเศรษฐศาสตร์ในระดับสูงต้องการทักษะทางคณิตศาสตร์ ทำให้ผู้สมัครศึกษาต่อทางเศรษฐศาสตร์นั้นมีทั้งผู้ที่จบมาทางคณิตศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ด้วย เมื่อการแข่งขันในการสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อสูงเช่นนี้ เราจึงจำเป็นต้องเตรียมตัวในการสมัครอย่างดี เพื่อให้ใบสมัครของเรานั้นสามารถสื่อไปยังคณะกรรมการว่าเรามีความสามารถและศักยภาพในการศึกษาในระดับปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์ จากสิ่งที่จะต้องใช้ในการสมัครทำให้เราได้คำแนะนำในเบื้องต้นสำหรับผู้สมัครดังนี้
- เกรด ย่อมชัดเจนว่าเกรดยิ่งมากยิ่งดี แต่นอกจากเกรดเฉลี่ยทั้งหมดแล้ว คณะกรรมการยังดูถึงรายวิชาต่างๆ โดยเฉพาะวิชาทางเศรษฐศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เนื่องจากเป็นวิชาที่สามารถสะท้อนถึงพื้นฐานที่จำเป็นในการศึกษาต่อ เกรดในวิชาทั้งสองหมวดจึงมีความสำคัญกว่าหมวดอื่นๆ มีหลายแห่งที่เน้นว่าต้องมีพื้นฐานทางพีชคณิตเชิงเส้น (Linear Algebra) และมีหลายแห่งที่แนะนำให้เรียนการวิเคราะห์จำนวนจริง (Real Analysis) อย่างไรก็ดีการเรียนแล้วได้เกรดไม่ดี (B หรือต่ำกว่า) ก็คงมีค่าเท่ากับการไม่มีวิชาดังกล่าวในใบแสดงผลการศึกษา และต่อไปนี้คือวิชาที่เป็นไปได้ที่จะลงเรียนเพิ่มเติมเพื่อเสริมพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับการศึกษาต่อ
คณะเศรษฐศาสตร์ |
|
2945313 คณิตเศรษฐศาสตร์ |
|
|
Mathematical Economics |
|
|
|
|
|
2945312 สถิติเชิงคณิตศาสตร์ |
|
|
Mathematical Statistics |
|
|
|
ภาควิชาคณิตศาสตร์
คณะวิทยาศาสตร์ |
|
2301234 Linear Algebra I |
|
|
|
|
|
2301305 Real Analysis I |
- คะแนน GRE โดยส่วนที่สำคัญที่สุดคือส่วน Quantitative และส่วนที่สำคัญน้อยที่สุดคือ Verbal โดยมากแล้วจะได้คะแนน Quantitative ที่ 800 เต็ม อย่างไรก็ดีคะแน นที่ 780 ก็เป็นที่ยอมรับได้ ส่วนคะแนนที่ 760 ถ้าเป็นไปได้และมีโอกาสน่าจะลองสอบอีกครั้ง เนื่องจากที่ 760 ระดับ Percentile จะต่ำกว่าที่ 800 และ 780 มาก ส่วนคะแนน Verbal แม้จะสำคัญน้อยที่สุด แต่การได้น้อยเกินไป (ต่ำกว่า 400) ก็เป็นเครื่องหมายที่ไม่ดี และที่สำคัญคือควรวางแผนเข้าสอบภายในเดือนตุลาคม เพื่อให้ผลคะแนนส่งไปยังมหาวิทยาลัยทันกำหนดปิดรับสมัคร
GRE Quantitative Score |
Percentile |
800 |
92 |
780 |
87 |
760 |
83 |
740 |
79 |
720 |
74 |
Source: ETS |
- จดหมายแนะนำ (Letter of Recommendation) เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน และเป็นที่ต้องพึงตระหนักไว้ว่าจดหมายแนะนำของผู้สมัครคนอื่นนั้นก็ย่อมเป็นจดหมายที่ดีเช่นกัน จึงจำเป็นที่จะต้องวางแผนเป็นอย่างดีว่าจะขอให้ใครเป็นผู้เขียนจดหมายให้ และจดหมายที่ดีนั้นควรจะมีแสดงถึงสิ่งที่ไม่สามารถแสดงได้ด้วยเอกสารอื่นๆ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ และที่สำคัญในการขอให้อาจารย์เขียนจดหมายแนะนำให้นั้นคือ ควรติดต่ออาจารย์ล่วงหน้านานๆ เพื่อให้อาจารย์มีเวลาในการเขียนจดหมายให้ เนื่องจากอาจารย์มักจะต้องเขียนให้มากกว่าหนึ่งคน
- คะแนน TOEFL เป็นอีกการทดสอบหนึ่งที่ผู้สมัครจำเป็นต้องผ่าน โดยเกือบทุกแห่งกำหนดคะแนนขั้นต่ำสำหรับแบบ Computer-Based ที่ 213 หรือเท่ากับแบบ Paper-Based ที่ 600 ส่วนแบบล่าสุด Internet-Based นั้นมีขั้นต่ำแตกต่างกันไป ซึ่งคะแนนที่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำนั้นก็เพียงพอต่อการสมัครเข้าศึกษาต่อแล้ว แต่ถ้าผู้สมัครต้องการสมัครขอรับทุนจากมหาวิทยาลัยด้วย คะแนนที่มากกว่าก็ย่อมได้เปรียบในการแข่งขันมากกว่า และในปัจจุบันหลายแห่งมีข้อกำหนดว่าผู้สมัครขอรับทุนจำเป็นจะต้องส่งผลการทดสอบด้านการพูดภาษาอังกฤษด้วยซึ่งอาจเป็นคะแนน TSE หรือคะแนนส่วน Speaking ของ TOEFL แบบ Internet-Based ก็ได้ และเนื่องจากไม่มีการจัดสอบ TSE ในไทย การเลือกสอบ TOEFL แบบ Internet-Based จึงน่าจะดีกว่าการสอบแบบเดิม
- อีกช่องทางหนึ่งที่สามารถเพิ่มโอกาสในการได้รับคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์คือ การผ่านการเรียนเนื้อหาวิชาในระดับสูงด้วยผลการเรียนที่ดี ซึ่งความสำเร็จในการเรียนวิชาในระดับสูงนี้เป็นสิ่งที่จะสื่อไปยังคณะกรรมการอย่างชัดเจนถึงความเป็นไปได้ที่ผู้สมัครจะประสบความสำเร็จในการศึกษาต่อ และต่อไปนี้เป็นบางส่วนของวิชาที่น่าสนใจในหลักสูตรเศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต
2940601 ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์จุลภาคขั้นสูง Advanced Microeconomic Theory
2940602 ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มหภาคขั้นสูง Advanced Macroeconomic Theory
2945603 เศรษฐมิติขั้นสูง Advanced Econometrics
2945605 คณิตเศรษฐศาสตร์ขั้นสูง Advanced Mathematical Economics
|